Forbes Thailand - Offshore Property Investment

I dette nummeret

ในภาวะที่ทางเลือกในการลงทุนเริ่มหลากหลายมากขึ้น แต่อสังหาริมทรัพย์ก็ยังคงมีเสน่ห์ตราตรึงต่อทั้งนักลงทุนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อย่างไม่เสื่อมคลายจึงเป็นที่มาของการนำเสนอนิตยสาร Forbes Life ฉบับพิเศษ Offshore Property Investment ที่ในครั้งนี้เราเลือกนำเสนอในธีม Mixed-Use Projects and Office Buildings ดังเช่นทุกปี ที่กองบรรณาธิการไม่ละเลยที่จะฉายภาพการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก เพื่อเป็นแนวทางและสนับสนุนการตัดสินใจแก่ผู้อ่าน

โดยในเล่ม JLL ได้จัดทำดัชนีความเข้มข้นด้านการลงทุน (Investment Intensity Index) ซึ่งจะเป็นตัววัดสภาพคล่องของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นปรอทวัดภาพรวมของเมืองอีกด้วย พร้อมจัดอันดับเมืองที่มีความน่าสนใจในการลงทุน 30 เมืองแรกจากการสำรวจบรรดาเมืองใหญ่และเมืองศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ 150 เมืองทั่วโลก

ขณะที่ Knight Frank ชี้แนวโน้มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่ยังคงแข็งแกร่ง และพบแนวโน้มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ด้านโลจิสติกส์หรือระบบการจัดส่งของที่กำลังมาแรง เกิดจากกระแสการซื้อของทางออนไลน์ที่กำลังบูมไปทั่วโลก

ขณะที่ในส่วนของ Property ที่ประหนึ่งจับชีพจรพัฒนาการของโครงการ mixed-use ในประเทศไทย ซึ่งมีการเปิดตัวหลายแห่งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เป็นมูลค่าการพัฒนารวมกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งขับเคลื่อนจากภาวะราคาที่ดินซึ่งดีดตัวแรงจนการพัฒนาโครงการรูปแบบเดียวอาจไม่คุ้มค่าต่อการพัฒนาอีกต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้เลือกนำเสนอโครงการเด่นให้ได้ติดตาม เช่น One Bangkok ที่รังสรรค์โดยบริษัทใต้ร่มเงาตระกูลสิริวัฒนภักดี Whizdom 101 ที่ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ บุตรสาวคนเล็กของธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นหัวเรือใหญ่ และ Singha Complex ที่ปั้นโดยบริษัทในเครือสิงห์ของครอบครัวภิรมย์ภักดี

ไม่เพียงเท่านั้นยังบอกเล่าถึงอภิมหาโครงการ mixed-use ตามเมืองสำคัญๆ ทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 3 แสนล้านบาท และกำลังจะเปลี่ยนโฉมเมืองใหญ่ของโลกภายในปี 2035 เพื่อรองรับกับการขยายตัวของเมืองโดยคัดเลือกบางส่วนที่นับว่าเป็น The World’s Top 10 Mixed-Use Development